วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Peter Pan ปีเตอร์ แพน


    กลางดึกคืนหนึ่ง เวนดี้และน้อง ๆ ต้องตกใจตื่น เพราะเสียงทะเลาะ กันระหว่างเด็กหนุ่มแปลกหน้ากับสุนัขของเธอ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมท่านเข้ามาในห้องของฉัน” เวนดี้ถามเด็กหนุ่มผู้นั้น “ผมชื่อปีเตอร์แพน และนี่คือ นางฟ้าทินเกอร์ เพื่อนของผม” ปีเตอร์แพน แนะนำตนเอง “ผมต้องขอโทษที่ส่งเสียงรบกวน แต่สุนัขของคุณกัดเงาของผมขาด ผมไม่ทราบ จะทำอย่างไรดี” ปีเตอร์แพนบอกถึงสาเหตุที่ทะเลาะกับสุนัข “ไม่เป็นไรหรอก ฉันชื่อเวนดี้ ฉันจะช่วยซ่อมเงาให้คุณเอง" เวนดี้พูดพลางหาด้ายและเข็มมาเย็บซ่อมเงาของปีเตอร์แพนจนเสร็จเรียบร้อยดี “ขอบคุณมาก คุณเวนดี้ ผมขอมอบลูกโอ๊กนี้ให้คุณ” ปีเตอร์แพนมอบลูกโอ๊กให้แก่เวนดี้ เวนดี้เห็นว่าสวยดีจึงร้อยเชือกคล้องคอไว้ ปีเตอร์แพนบอกจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ให้เวนดี้รู้ว่า “ที่เกาะแห่งความฝันกลางทะเลแดนไกล มีเด็กกำพร้าที่น่าสงสารมากอยู่เจ็ดคน ผมเห็นพวกเขาเหงาและอยากได้เพื่อนคอยดูแล จึงได้มาหาคุณ อยากให้คุณไปดูแลเด็ก ๆ ทั้งเจ็ดคนนั้น” เวนดี้ดีใจมาก เธอรักและสงสารเด็กทั้งเจ็ดคนจึงตอบตกลงทันที และเธอพาน้อง ๆ ของเธอคือ จอห์นและมิเชลไปด้วย ปีเตอร์แพนไม่ขัดข้องจึงพาทั้งสามคนเหาะขึ้นไปในท้องฟ้า ไม่นานนัก พวกเขาก็เห็นเกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่งกลางมหาสมุทร ปีเตอร์แพนชี้ให้เวนดี้ดู “นั่นคือเกาะแห่งความฝัน จุดหมายของเรา” “โอ…มันสวยงามมาก” เวนดี้อุทาน ในขณะที่ทั้งหมดจะเหาะลงสู่พื้นดิน “บูม” เสียงระเบิดดังขึ้นจากเรือของโจรสลัด ถูกกลุ่มของปีเตอร์แพนพอดี ทุกคนจึงร่วงลงสู่พื้นดิน ปีเตอร์แพนมองหาเวนดี้ เขาเหลือบ ไปเห็นนางฟ้าทินเกอร์ จึงคิดว่าทินเกอร์เป็นเหตุและกล่าวตำหนิทินเกอร์ว่า “พวกโจรสลัดของกัปตันฮุคเห็นเรา เป็นเพราะแสงระยิบระยับของเธอนั่นเอง” ทินเกอร์น้อยใจมาก เธอร้องไห้และเหาะล่วงหน้าไปหาบรรดาเด็กกำพร้าทันที “พวกเธอจงระวังให้ดี เวนดี้ มนุษย์กินคนกำลังจะมาอยู่กับพวกเธอแล้ว” ทินเกอร์โกหกเด็ก ๆ ด้วยความโกรธที่ถูกปีเตอร์แพนตำหนิ พวกเด็ก ๆ จึงพร้อม ที่จะรับมือกับเวนดี้มนุษย์กินคน เด็กกำพร้าคนหนึ่งในกลุ่มชื่อ ทูเทิล เขายิงธนูแม่นมาก เมื่อเขาเห็นเวนดี้เดินมาถึง เขาจึงยิงธนูออกไปทันที “โอ๊ย ปีเตอร์แพน ช่วยด้วย” เวนดี้ร้องเรียกปีเตอร์แพน ก่อนล้มลงนอนแน่นิ่งไป “เอ๊ะ อะไรนี่ ฉันยิงคนที่ปีเตอร์แพนส่งมาให้เป็นแม่เรา หรือนี่ โฮ…โฮ..” ทูเทิลร้องไห้ ขณะเดียวกันปีเตอร์แพนวิ่งมาพบ เหตุการณ์พอดี เขาร้องไห้พลางดึงลูกธนูออกจากทรวงอกของเวนดี้ ทันใดนั้น เวนดี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น “ไชโย เธอยังไม่ตาย” ปีเตอร์แพน ร้องอย่างดีใจ ลูกธนูปักลงไปในลูกโอ๊ก ที่ปีเตอร์แพนให้เธอไว้ เธอจึงไม่เป็นอันตราย นางฟ้าทินเกอร์ จึงถูกขับไล่ไป เด็ก ๆ นั่งล้อมรอบเวนดี้ แม่ที่น่ารัก ทุกคนมี ความสุขมาก เมื่อได้ฟังเวนดี้เล่าเรื่องของเธอให้พวกเด็ก ๆ ฟัง แต่…ที่ประตูหน้าบานนั่นเอง กัปตันฮุคและพวกโจรสลัดกำลังรอโอกาสจะจับเวนดี้ และเด็กทั้งเจ็ดคนอยู่ ขณะเดียวกัน เจ้าจระเข้ใหญ่ก็กำลังตามหลังกัปตันฮุคมาตลอดเวลา มันเคยกิน แขนซ้ายของเขามาแล้วและมันก็ยิงติดใจเนื้อของกัปตันฮุคมาก จึงได้เฝ้าไล่ตามกัปตันฮุค ไปทุก ๆ แห่ง วันหนึ่ง ปีเตอร์แพน พาเวนดี้ไปนั่งเล่นที่เกาะนางเงือก ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้อง ขอความช่วยเหลือ ปีเตอร์แพน จึงรีบเหาะไปดู เขาเห็นลิลลี่ลูกสาวหันหน้าเผ่าอินเดียแดง ถูกโจรสลัดจับมัดกลางทะเล และเธอกำลังจะถูกเจ้าฉลามร้ายคาบไป ปีเตอร์แพนจึงเหาะ ลงไปช่วยลิลลี่จากฉลาม แล้วพาไปส่งที่หมู่บ้าน เขาอยู่ร่วมงานฉลองและเต้นรำกับลิลลี่อย่าง สนุกสนาน เวนดี้จึงเดินกลับบ้านคนเดียวเพราะเป็นห่วงเด็ก ๆ ที่รออยู่ เวนดี้กลับมาจึงถูกกัปตันฮุคซึ่งดักรออยู่ จับเธอมัดรวมกับพวกเด็ก ๆ และพาไป ลงเรือ ก่อนไปกัปตันฮุคได้ใส่ยาพิษลงไปในขนมเค้กที่เตรียมไว้ให้ปีเตอร์แพน นางฟ้าทินเกอร์ แอบดูเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา เมื่อปีเตอร์แพนกลับมาเขาหยิบขนมเค้กขึ้นมาจะกินด้วยความหิว นางฟ้าทินเกอร์ ตรงเข้ามาแย่งขนมแล้วพูดว่า “กัปตันฮุคใส่ยาพิษลงในขนมเค้ก อย่ากินเลย” ทินเกอร์กลัวว่าปีเตอร์แพนจะไม่เชื่อ เธอจึงกินขนมเค้กนั้นเองและล้มลงขาดใจตาย “โธ่…นางฟ้าทินเกอร์ ฉันเสียใจที่เข้าใจเธอผิด ปีเตอร์แพนร้องไห้ น้ำตาของเขาหยดลงบนร่างของทินเกอร์ เธอฟื้นขึ้นมา ปีเตอร์แพนดีใจมาก ขณะเดียวกัน พวกโจรสลัดพาเชลยทั้งหมดไปที่เรือและเวนดี้จะเป็นคนแรกที่จะถูก โยนลงไปให้เป็นอาหารของจระเข้ เด็ก ๆ ต่างร้องไห้เพราะความกลัว กัปตันฮุคตะโกนบอก กับจระเข้ว่า “ข้าจะส่งอาหารอย่างดีให้แก่เจ้า แล้วเจ้าอย่าติดตามข้าไปอีกนะ ทันใดนั้น ปีเตอร์แพนและนางฟ้าทินเกอร์มาทันเวลาพอดี เขาเหาะไปอุ้มเวนดี้ขึ้นมาบนเรือ ก่อนที่ร่างของเธอจะถึงปากจระเข้ใหญ่  ทินเกอร์ช่วยปล่อยเด็ก ๆ ให้เป็นอิสระ ทุกคน ช่วยกันจับพวกโจรสลัดโยนลงในน้ำ ดังนั้น กัปตันฮุคและพวกโจรสลัดจึงตกเป็นอาหารอันโอชะของจระเข้เสียเอง ปีเตอร์แพน จึงพาเวนดี้และน้องของเธอขึ้นเรือโจรสลัด และส่งเรือ ให้เหาะพาเธอกลับไปส่งที่บ้านในลอนดอน “ลาก่อนปีเตอร์แพน” “ลาก่อนนางฟ้าทินเกอร์” “ลาก่อนเวนดี้” ปีเตอร์แพนจากไปแล้ว เหลือเพียงในความคิดคำนึงของเวนดี้ตลอดไป 




วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ขอบคุณที่มาของภาพ
ขอบคุณที่มาของภาพ


สารนิเทศ คือ ข้อมูลข่าวสารความรู้ ข้อเท็จจริง ที่ได้มีการบันทึกไว้ในสื่อที่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นทราบได้ด้วยวิธีใด วิธีหนึ่ง เพื่อนำสารนิเทศนั้นไปใช้ประโยชน์ตามต้องการ
ประเภทของสารนิเทศมี 3 ประเภท1. สารสนเทศปฐมภูมิ (primary sources)  หมายถึง  สารสนเทศที่เรียบเรียงขึ้นจากประสบการณ์ของผู้เขียน หรือเป็น ผลการค้นคว้าวิจัย  นำเสนอความรู้ใหม่ ๆ  ได้แก่  รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์  เอกสารการปฏิบัติงาน  รายงานการประชุมทางวิชาการ   บทความวารสารวิชาการ   เอกสารสิทธิบัตร   เอกสารมาตรฐาน  เอกสารจดหมายเหตุ
2. สารสนเทศทุติยภูมิ (secondary sources) หมายถึง  สารสนเทศที่ได้จากการนำสารสนเทศปฐมภูมิมาสังเคราะห์และเรียบเรียงขึ้นใหม่  เพื่อเสนอข้อคิดหรือแนวโน้มบางประการ  ได้แก่  หนังสือทั่วไป  หนังสือตำรา  หนังสือคู่มือการทำงาน   รายงานความก้าวหน้าทางวิทยาการ  บทคัดย่องานวิจัย บทวิจารณ์หนังสือ  วารสารสาระสังเขป เป็นต้น
3. สารสนเทศตติยภูมิ (tertiary sources) หมายถึง สารสนเทศที่ชี้แนะแหล่งที่อยู่ของสารสนเทศปฐมภูมิและทุติยภูมิ  จะให้ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสารสนเทศ  ได้แก่หนังสือนามานุกรม  บรรณานุกรม  และดัชนีวารสาร เป็นต้น  
แหล่งสารสนเทศมีความสำคัญต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูล  ในการอ้างอิงทางวิชาการถือว่าสารสนเทศจากแหล่งปฐมภูมิเป็นสารสนเทศที่ดี  มีความน่าเชื่อถือในเรื่องความถูกต้องตามข้อเท็จจริงมากกว่าสารสนเทศทุติยภูมิและสารสนเทศตติยภูมิ


ความสำคัญของสารนิเทศ

1. เพื่อการศึกษา (Education) สารนิเทศที่จัดเก็บและให้บริการในห้องสมุด และศูนย์สารนิเทศทั่ว ๆ ไป ล้วนแล้วแต่ให้ ประโยชน์ในการเก็บข้อมูลเบื้องต้นต่อการศึกษา ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน ความหมายของคำว่าการศึกษามีความหมายกว้าง ไม่เน้นถึงความหมายเพื่อการศึกษาอยู่แต่ในโรงเรียน และสถาบันการศึกษาอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังหมายความรวมถึง การศึกษาด้วย ตนเองอีกด้วย สารนิเทศเพื่อการศึกษาได้แก่ หนังสือ แบบเรียน ตำราเรียน คู่มือครู หนังสือประกอบการเรียนการสอน และจากสภาพสาร นิเทศที่เปลี่ยนไปมีสื่อสารนิเทศประเภทโสตทัศนวัสดุเข้ามามีบทบาทต่อการเรียนการสอน เช่นการใช้วีดีทัศน์ ประกอบการเรียน การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือช่วยสอนเป็นต้น สารนิเทศเพื่อการศึกษา จึงเป็นสื่อสำคัญเพื่อการพัฒนาคน ทางด้านการศึกษา
2. เพื่อให้ความรู้ (Information) คนในสังคมมีความจำเป็นต้องทราบความ เปลี่ยนแปลงไปในสังคม ต้องทราบข่าวในสังคม ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน การติดต่อสื่อสารในสังคม แต่ละวันจะได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง สารนิเทศทุกประเภทล้วนแล้วแต่ให้ข่าวสาร ที่เกิดขึ้น ในสังคม โดยเฉพาะสารนิเทศประเภทวารสาร หนังสือพิมพ์ ตลอดจนสื่อสารนิเทศ ประเภทวิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคม ล้วนแล้วแต่มีบทบาทอย่างสูง ต่อการติดตามข่าวใน สังคมที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน สารนิเทศต่าง ๆ จึงมีความสำคัญต่อการขจัดความสงสัย ในเรื่อง ใคร่รู้ของเหตุการณ์ในสังคมให้หมดสิ้นไป
3. เพื่อการค้นคว้า (Research) ในยุคสังคมข่าวสารปัจจุบัน สารนิเทศที่ตอบสนองในเรื่องการค้นคว้า วิจัย มีบทบาทอย่างสูง ต่อการพัฒนาคน และพัฒนาประเทศในแต่ละประเทศต่างพยายามสนับสนุน งบประมาณในการทำวิจัย และ การค้นคว้าทาง เทคโนโลยี ต่างๆ สารนิเทศทางด้านการศึกษาค้นคว้า ไม่ว่าจะจัดทำให้บริการอยู่ในรูปใด เช่น บัตร สาระสังเขป สมุดสถิติ วิทยานิพนธ์ รายงานการวิจัย ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญในการก่อให้เกิดสารนิเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้าที่ทันสมัย และนำไปใช้ ในการพัฒนาประเทศทุก ๆ ด้านได้ ต่อไป
4. เพื่อความจรรโลงใจ (Inspiration) สารนิเทศต่างๆ นอกจากผู้ใช้จะได้ประโยชน์ทางด้านการได้ สารนิเทศเพื่อการศึกษา ได้รับความรู้แล้ว สารนิเทศบางประเภท และบางชนิดยังอำนวยประโยชน์ ก่อให้เกิดความจรรโลงใจ ทำให้เกิดความสุขทางจิตใจ เช่น การอ่านหนังสือวรรณกรรมที่สำคัญ ช่วยก่อให้เกิดความรู้สึกซาบซึ้งในความดีงามใน ความคิดของผู้อื่น
5.เพื่อความบันเทิง (Recreation) สังคมสารนิเทศในปัจจุบัน มีสื่อสารนิเทศเพื่อความบันเทิง ในการพักผ่อนหย่อนใจมากๆ แต่ละชนิดล้วนแล้วแต่ตอบสนองสาร นิเทศเพื่อความบันเทิงส่วนตัวหรือครอบครัว เช่น การอ่านหนังสือที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว หรือการเพลิดเพลินชมรายการจากโทรทัศน์ หรือ ฟังเพลงที่ชื่นชอบจากวิทยุ สื่อสารนิเทศเพื่อ การบันเทิง มีการผลิตมากมาย เพื่อสนองความต้องการ ของผู้ใช้สารนิเทศประเภทนี้อย่างทั่วถึง และอำนวยความสะดวกสบายต่อการใช้เพื่อความบันเทิงได้อย่างเต็มที่
ความสำคัญของสารนิเทศในสังคม เป็นความจำเป็นของคนในสังคมที่ต้องใช้ สารนิเทศเพื่อพัฒนาตนเอง และใช้สารนิเทศ อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาประเทศโดยส่วนรวม สารนิเทศจึงมีความสำคัญ ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพของสังคม ให้ก้าวหน้าอย่าง ไม่มีที่สิ้นสุด


ที่มา guru.google.co.th/guru/thread?tid=15d5f4338f34460b